รวมวิธีถนอมสายตา สำหรับคนที่ชีวิตติดหน้าจอ!

รวมวิธีถนอมสายตา สำหรับคนที่ชีวิตติดหน้าจอ!

รวมวิธีถนอมสายตา เราทุกคนแทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ เวลาเราจะทำงาน หรือทำอะไรทุกๆ อย่างล้วนต้องเกี่ยวข้องกับหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทรศัพท์มือถือ หน้าจอแท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งหน้าจอโทรทัศน์

ทั้งการทำงาน การเรียน หรือกิจกรรมผ่อนคลายต่างๆ อย่างเช่น เล่นเกม อ่านนิยาย ดูภาพยนตร์ ดูซีรีส์ ฟังเพลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เรานั้นเพ่งสายตามองหน้าจอกันแทบจะตลอดเวลา พอนานวันเข้าก็เริ่มเกิดปัญหาทางสายตา อย่างปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาสั้น สารพัดปัญหาที่ตามเข้ามา รวมไปถึงผลข้างเคียงอื่นๆ ด้วย

อย่างเช่น ปวดหัว เมื่อยคอบ้าง หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน จนเริ่มมีอาการบางอย่างข้างต้นแล้ว ซึ่งจากสถิติพบว่าคนที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน มักจะประสบกับปัญหาสายตาหลักๆ 4 โรค ได้แก่

1. โรควุ้นในตาเสื่อม มีอาการคือ

• เห็นเหมือนหนากไย่ลอยไปมา
• เห็นแสงสว่างคล้ายแสงแฟลช

2. โรคสายตาสั้น เอียง มีอาการคือ

• มองภาพเบลอ ไม่ชัด
• ปวดตา ตาล้า ต้องเพ่งสายตา

3. โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม มีอาการคือ

• มีอาการตาแห้ง แสบตา เคืองตา ปวดตา และปวดศีรษะ
• ใช้สายตานานๆ แล้วเริ่มมองไม่ชัด

4. โรคจอประสาทตาเสื่อม มีอาการคือ

• เห็นภาพบิดเบี้ยว หรือมีจุดดำตรงกลางภาพ
• มองเห็นผ้ามีสีซีดลง

เมื่อเทคโนโลยีมันก้าวมาถึงขีดที่คอมพิวเตอร์ซึ่งเคยแสนวิเศษ กำลังจะกลายเป็นอุปกรณ์ธรรมดาๆ ที่จำเป็นต้องมีของทุกหน่วยงาน ทุกคนต้องใช้ได้ใช้เป็น และเรากำลังหลงใหลได้ปลื้มกับความสามารถของคอมพิวเตอร์

จนลืมนึกถึงพิษภัยที่มันมากับคอมพิวเตอร์ แม้จะไม่ใช่ทางตรงทีเดียวกันก็ตาม พิษภัยนี้มีไว้สำหรับท่านที่นั่งใช้อยู่หน้าจอเป็นประจำเท่านั้น โดยเฉพาะท่านที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอเกิน 6 ชั่วโมงต่อวัน จากการนั่งทำงานเป็นประจำ ผลกระทบต่อสุขภาพเบื้องต้นที่แน่ๆ ก็คือ ปวดหลัง ปวดไหล่ ต้นคอ และข้อมือ เกิดอาการเครียดที่ตา สายตาพัง

เพราะขณะมองจอนั้นผู้ใช้มักไม่กะพริบตา เป็นผลให้ตาขาดน้ำหล่อเลี้ยงเกิดอาการระคายเคืองได้ และอาการที่ตามมาคือตาพร่าและมองไม่เห็นชั่วคราว นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการไมเกรนพ่วงมาด้วย

เพราะเมื่อตาเกิดความเครียดกล้ามเนื้อตา จะบีบรัดเลนซ์ตาจนเกิดความเมื่อยล้า หมอจึงแนะนำว่า ถ้าต้องใช้สายตาอยู่กับจอนานๆ ควรพักสายตาทุกสิบนาที ด้วยการเปลี่ยนไปมองวัตถุที่อยู่ไกลออกไปสัก 20 ฟุต มองสัก 2-3 นาทีแล้วค่อยมองจอต่อ

จักษูแพทย์ได้แนะให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์นานๆ ต้องพักสายตาให้มองไกลทุก 10 นาที และท่านที่มีปัญหาสายตาสวมแว่นอยู่แล้วนั้น ถ้าต้องมารับหน้าที่อยู่หน้าจอนานๆ ควรมีแว่นตาเฉพาะสำหรับงานหน้าจอนี้ด้วยอีกอันหนึ่ง

ซึ่งแตกต่างไปจากแว่นตาที่ใช้ยามปกติ ส่วนจะแตกต่างอย่างไร คงต้องปรึกษาจักษุแพทย์ และในขณะเดียวกันท่านเหล่านี้ควรได้รับการตรวจวัดสายตาเป็นประจำ เพื่อให้ได้ขนาดเลนซ์ที่เหมาะสม

วันนี้เรามาดูวิธีที่จะช่วยลดการทำร้ายสายตา ทำให้สายตาเรารู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น ดังคำแนะนำดังต่อไปนี้ได้เลย

1. ใช้แสงและขนาดตัวอักษรที่เหมาะสม

ปรับแสงสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับสายตา ขนาดตัวอักษร หรือ Resolution หน้าจอก็มีผล สามารถปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานได้เช่นกัน จะได้ไม่ต้องเพ่งมาก แสงสภาพแวดล้อมก็ต้องดูเช่นกัน ไม่ควรใช้แสงหน้าจอสว่างในห้องมืด เป็นต้น หรือจะเปิดโหมด Night Shift บนอุปกรณ์ เมื่อใช้งานตอนกลางคืนหรือที่ที่มีแสงน้อยก็ช่วยได้

2. เว้นระยะระหว่างดวงตาและหน้าจอ

การจัดท่านั่งเวลาทำงาน หรือใช้งานหน้าจอต่างๆ มีส่วนสำคัญในการใช้งานสายตาอย่างมากเลย ทางที่ดีเราควรจัดให้มีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50-70 ซม. จัดระดับจอภาพจากจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว เท่านี้ก็ช่วยให้การใช้สายตาไม่หนักเกินความจำเป็นแล้ว

3. ใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น แว่นกรองแสง

ปัจจุบันมีแว่นตาที่ผลิตมาเพื่อกรองแสงจากหน้าจอโดยเฉพาะ เลนส์สามารถนำมาตัดเป็นแว่นสายตาสำหรับคนสายตาสั้น-ยาวได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการถนอมสายตาได้ดีมากยิ่งขึ้น แอดมินว่าเหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตติดหน้าจอมากๆ เลย

4. กวาดสายตาระยะไกล

ทำฟีลนางเอก MV เหม่อลอยหันหน้าไปที่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง หรือมองออกไปนอกหน้าต่างก็ได้ค่ะซิส แล้วกวาดสายตามองสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในห้องเป็นแนววงกลม เพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสายดวงตา หรือจะมองวัตถุสีเขียว หรือ วัตถุที่มองแล้วทำให้รู้สึกสบายตาก็ได้เช่นกัน

5. กลอกตาไปมาทุกๆ ชั่วโมง

เพียงแค่หลับตา แล้วกลอกตาเป็นวงกลมประมาณ 1 นาทีเป็นอย่างต่ำ นอกจากจะเป็นการพักเบรกสายตาจากแสงและรังสีของหน้าจอต่างๆ แล้ว ท่าบริหารท่านี้ยังเหมือนการนวดดวงตาให้คลายความตึงได้อีกด้วยนะ

6. กะพริบตาให้ถี่ขึ้น

อาการตาแห้งเกิดจากการที่เรากะพริบตาน้อยลง เนื่องจากมีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการกะพริบตาจะลดลงจาก 20 – 22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 – 8 ครั้งต่อนาที จึงควรที่จะกะพริบตาให้ถี่ขึ้น หรืออาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น

7. พักสายตา

ทุกๆ ชั่วโมงควรเปลี่ยนอิริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง โดยละสายตาจากหน้าจอ แล้วมองออกไปในระยะไกล สัก 10 – 20 วินาที แล้วกลับมามองในระยะใกล้ ทำสลับกันไปหลายๆ ครั้ง จะช่วยให้คลายสายตาจากความเมื่อยล้าได้ดี

ในบางครั้งสายตาเราอาจจะมีการเสื่อมลง อาจมีสายตาสั้น ยาว เอียง หรือผิดปกติโดยที่เราไม่อาจรู้ตัวได้ ยิ่งเราจ้องหน้าจอมากๆ ก็ยิ่งทำให้สายตานั้นแย่ลง เพราะฉะนั้นเราควรไปตรวจสายตากับจักษุแพทย์เป็นประจำทุกปี ถ้าหากมีความผิดปกติได้รักษา และดูแลได้อย่างทันที

พักจากหน้าจอแล้วออกไป เที่ยวหาดสวย ภูเก็ต แบบไม่ต้องออกเกาะ มาชมบรรยากาศที่สวยงามและอากาศที่บริสุทธิ์ ตอนเดินทางก็ต้องหาอะไรทำเราก็อยากแนะนำเพลงของ 7 วงบอยแบนด์เกาหลี ที่จะกระชากใจคุณ! เพื่อทำให้คุณไม่เบื่อระหว่างเดินทาง